07.30 พร้อมกันที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ เคาน์เตอร์สายการบิน Thai Airways (TG) โดยมีเจ้าหน้าที่บริษัทคอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกตรวจเช็คสัมภาระและเอกสารการเดินทางให้กับทุกท่าน
10.15 ออกเดินทางสู่ เฉิงตู ประเทศจีน สายการบิน Thai Airways เที่ยวบินที่ TG618
15.05 เดินทางถึง สนามบินเฉิงตูเทียนฟู่ เมืองเฉิงตู ซึ่งเป็นเมืองหลวงของมณฑลเสฉวน ตั้งอยู่บริเวณลุ่มแม่น้ำหมินใจกลางมณฑล มีภูมิประเทศรายรอบไปด้วยเทือกเขา และมีสภาพภูมิอากาศที่เหมาะสมต่อการประกอบอาชีพเกษตรกรรม โดยมีฤดูร้อนที่อบอุ่น ฤดูหนาวที่ไม่หนาวนัก และมีปริมาณความชื้นสูง ประชากรเมืองเฉิงตูมีราว 10 ล้านคน จัดเป็นอันดับ 3 ของประเทศจีน ในปัจจุบันเป็นศูนย์กลางด้านการเมือง การทหาร และด้านการศึกษาของภูมิภาคตะวันตกเฉียงใต้ เวลาท้องถิ่นเร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง (เพื่อความสะดวกในการนัดหมาย กรุณาปรับนาฬิกาของท่านเป็นเวลาท้องถิ่น)
จากนั้นนำท่านเที่ยวชม ถนนโบราณควานไจ่เซี่ยงจื่อ แปลเป็นไทยได้ใจความ “ซอยกว้างซอยแคบ” จัดว่ามีเสน่ห์ของความเป็นอาคาร ตกแต่งด้วยเรื่องราววิถีชีวิตการเป็นอยู่ของคนจีนเฉิงตูในสมัยโบราณ แต่ผสมความทันสมัยใส่เข้าไปได้อย่างลงตัว ถนนคนเดินมี 3 ซอย แต่ละซอยมีความยาวประมาณ 400 เมตร มีร้านค้าเล็กๆ ตั้งเรียงรายอยู่ในแต่ละซอยและตรอกให้เดินช้อปกันเพลิน ทั้งร้านหนังสือ ร้านชา-กาแฟ บาร์ เสื้อผ้า ไปจนถึงร้านอาหารนานาชนิด รวมร้านค้าทุกซอยแล้วมีจำนวนหลายร้อยร้านค้า
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 1)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม (มื้อที่ 2)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ทะเลสาปเตี๋ยซี(ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง) ระหว่างทางแวะรับประทานอาหารกลางวันที่เมืองเม้าเสี้ยน
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 3)
นำท่านแวะชม ทะเลสาบเตี๋ยซี (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง) ซึ่งเป็นทะเลสาบที่ผิวน้ำราบเรียบ ปราศจากริ้วคลื่น หรือแท่งตอไม้ และสีของทะเลสาปเข้มสดไร้เงาสะท้อน ตั้งอยู่ระดับความสูงเกือบ 3,000 เมตร เป็นทะเลสาบสีเขียวเทอร์คอยซ์ เป็นทะเลสาปที่ใหญ่ตระการตา ทะเลสาบเต๋อซีเป็นผลพวงจากการเกิดแผ่นดินใหวอย่างรุนแรงบ่อยครั้งและได้กลืนเมืองทั้งเมืองอยู่ใต้ทะเลสาบ
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองโบราณซงพาน อยู่ติดชายแดนจีน – ทิเบต ห่างจากเมืองเฉิงตู 322 กิโลเมตร สร้างในสมัยราชวงศ์หมิง เป็นเมืองที่ใช้แลกเปลี่ยนสินค้าชาวฮั่นและชาวทิเบตซึ่งชาวฮั่นนิยมนำใบชา ผ้าแพร เกลือและของใช้ประจำวันมาแลกเปลี่ยนม้าแกะ ขนแกะ และหนังสัตว์ของชาวทิเบต เมืองโบราณที่มีกำแพงรายล้อมรอบด้านเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีความยาว 6.2 กิโลเมตรทำจากอิฐและหินที่มีความสูง 12.5 เมตร หนา 12 เมตร ใช้คนสร้างมากกว่าหนึ่งแสนคน มีรูปปั้นของเจ้าเหวินเฉิน กับกษัตริย์ซงเซนกัมโป แห่งธิเบต
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองจิ่วจ้ายโกว (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) เป็นพื้นที่อนุรักษ์ธรรมชาติ อยู่ทางตอนเหนือของมณฑลเสฉวน ห่างจากเมืองเฉิงตูประมาณ 330 กิโลเมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติในเมืองจีนที่สวยงามและมีความหลากหลาย จนเรียกได้ว่าเป็นสวรรค์บนดิน สามารถไปเยี่ยมชมได้ทุกฤดู ซึ่งเราก็จะได้เห็นเสน่ห์และความสวยงามที่แตกต่างกันไปในแต่ละช่วงเวลา
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 4)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม (มื้อที่ 5)
นำท่านเดินทางสู่ อุทยานแห่งชาติจิ่วจ้ายโกว (เดินทางโดยใช้รถเวียนของอุทยาน) เพื่อชมมรดกโลกอุทยานแห่งชาติธารสวรรค์ “จิ่วจ้ายโกว” ครอบคลุมพื้นที่กว่า 720 ตารางกิโลเมตร และอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 2,500 เมตร ชื่อของ "จิ่วจ้ายโกว" นั้นเป็นคำภาษาจีนที่แปลว่า "ธารน้ำเก้าหมู่บ้าน" เพราะในอดีตนั้นมีหมู่บ้านชาวทิเบตทั้งหมด 9 หมู่บ้านอยู่ริมธารน้ำเหล่านี้ และเนื่องจากชาวทิเบตนั้นมีความศรัทธาในภูเขาและสายน้ำ จึงมีความเชื่อว่าจิ่วจ้ายโกวนั้นเป็นดินแดนแห่งขุนเขาและธารน้ำศักดิ์สิทธิ์มีแม่น้ำลำธาร มีทะเลสาบใหญ่น้อยมากมายกว่า 144 แห่ง และน้ำตกขนาดใหญ่ น้ำในทะเลสาบสีมรกตใสสะอาดและสวยงาม สะท้อนภาพของภูเขาท้องฟ้าสีคราม ป่าดงดิบอันอุดมสมบูรณ์ ทุกสถานที่ล้วนเป็นความงามที่ธรรมชาติได้บรรจงสร้างไว้ได้ดั่งภาพวาดในจินตนาการจึงได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ โดยองกรณ์ UNESCO เมื่อปี ค.ศ. 1992 และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับ 5A ของจีน ที่ใครๆ ต่างก็ใฝ่ฝันอยากไปเยือนสักครั้งในชีวิต
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 6)
หมู่บ้านซู่เจิ้ง น้ำตกที่ไหลผ่านตามธรรมชาติที่ ธรรมชาติได้บรรจงสร้างไว้ดั่งภาพวาดเป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีของจิ่วจ้ายโกวที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เที่ยวชมและบันทึกภาพกันเป็นจำนวนมาก
ทะเลสาบแรด เป็นทะเลสาบขนาดใหญ่อันดับ 2 ของอุทยานจิ่วจ้ายโกว รองจากทะเลสาบยาว และเป็นทะเลสาบที่มีวิวเปลี่ยนเยอะที่สุด เงาสะท้อนสวยงามอันดับ 1 รอบทะเลสาบเต็มไปด้วยดอกไม้นานาชนิด ฤดูใบไม้ผลิกับฤดูร้อนจะเป็นสีเขียวทั้งหมด ฤดูใบไม้ร่วง ใบไม้จะเป็นสีแดง ส่วนต้นสนจะเป็นสีเขียว ส่องเงาสะท้อนน้ำยิ่งสวยงาม
ทะเลสาบยาว ใหญ่ที่สุดในจิ่วจ้ายโกว ยาวกว่า 7 กิโลเมตร อยู่ท่ามกลางขุนเขาในบรรยากาศที่เงียบสงบแต่งดงาม ชม ทะเลสาบห้าสี เป็นทะเลสาบที่มีสีของน้ำแปลกตาโดยเฉพาะเมื่อยามแสงอาทิตย์ตกกระทบพื้นน้ำ สีของน้ำในทะเลสาบจะเปล่งประกายเป็นสีรุ้งดูงดงาม
น้ำตกธารไข่มุก ซึ่งเป็นน้ำตกที่ไหลผ่านถ้ำลำธารใหญ่น้อยที่สลับซับซ้อนดุจดังวังบาดาล โดยมีสายน้ำทอดยาวลดหลั่นกันมาเป็นระยะทางถึง 310 เมตร โดยไม่ขาดช่วงสายธารส่องประกายระยิบระยับราวกับความงามของเส้นไข่มุก ให้ท่านได้สนุกกับการบันทึกถ่ายภาพและดื่มด่ำกับธรรมชาติที่สวยสดงดงามได้อย่างเต็มที่ ถึงเวลานัดหมายออกจากอุทยาน
ทะเลสาบ5สี เป็นทะสาบที่มีสีของน้ำแปลกตา โดยเฉพาะเมื่อยามแสงอาทิตยต์กกระทบพื้น สีของน้ำในทะเลสาบจะเปล่งประกายเป็นสีรุ้งดูงดงามมากก เป็นอุทยานที่เหมาะกับการไปถ่ายพรีเวดดิ้งธีมเทพนิยายมากๆ
ทะเลสาบนกยูง ด้วยสีสันของสายน้ำที่เป็นสีฟ้าเข้ม-อ่อนสลับกันขึ้นอยู่กับระดับความลึกของน้ำ และรูปร่างของทะเลสาบคล้ายนกยูง จึงเป็นที่มาของชื่อนั่นเอง และในยามใบไม้เปลี่ยนสี เมื่อใบไม้สีต่างๆ ร่วงหล่นบนผืนน้ำ ก็จะแผ่กระจายออกคล้ายนกยูงกำลังรำแพน จนเป็นที่ร่ำลือว่าหากได้ชมความงามของทะเลสาบนี้ ก็ไม่อาจเห็นทะเลสาบอื่นใดงดงามได้อีก
ทะเลสาบแพนด้า เป็นทะเลสาบสีเขียวอมน้ำเงิน เพราะเชื่อว่าเคยมีหมีแพนด้าลงมาดื่มน้ำในทะเลสาบแห่งนี้
**แจ้งให้ทราบ:การเที่ยวชมภายในอุทยานจิ่วจ้ายโกวได้มากน้อยขึ้นอยู่กับการรักษาเวลาของคณะทัวร์และจำนวนนักท่องเที่ยวในวันนั้นๆ ไกด์และหัวหน้าทัวร์จะพาคณะพาเที่ยวชมตามจุดไฮไลท์สำคัญๆตามที่ระบุในรายการทัวร์ และถ้าไม่สามารถเที่ยวชมได้ครบทุกจุดทางทัวร์ขอสงวนสิทธิ์ในการไม่คืนเงินใดๆทั้งสิ้น
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 7)
*** พิเศษ ชมการแสดงโชว์ทิเบต ชมการร่ายรำอันตระการตาและชมการแสดงวัฒนธรรมประเพณีพื้นเมืองที่สวยงามของชนเผ่าจ้าง(ทิเบต) ในโรงละครที่ตกแต่งในแบบทิเบตไม่ว่าจะชายหรือหญิงจะมีเสียงร้องที่สูงมากๆ
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม (มื้อที่ 8)
จากนั้นนำท่านเที่ยวชม อุทยานแห่งชาติหวงหลง (รวมนั่งกระเช้าขึ้นและรถแบตเตอรี่) ชมความงามของธรรมชาติที่สรรสร้างเป็นลำธารสายหนึ่งไหลมาจากภูเขาหิมะนับพันปี จนหินปูนเกิดตกตะกอนเป็นแอ่งเป็นชั้น ทั้งเล็กและใหญ่กว่า 4,000 ชั้น สูงตั้งแต่ 1.5 – 4.5 เมตร น้ำสีรุ้งในอ่าง เปรียบเปรยเป็นที่เล่นน้ำของนางฟ้าชั้นสวรรค์ ลำธารเรียงรายลดหลั่นเป็นระยะกว่า 3,000 เมตร เป็นรูปร่างต่างๆ แสนมหัศจรรย์และงดงาม ไม่มีที่ใดในโลกเทียบได้ จนมีชื่อว่าหวงหลงหรืออุทยานแห่งชาติมังกรเหลือง หมายเหตุ ** ราคารวมนั่งกระเช้าไฟฟ้าหวงหลงขึ้น+รถแบตเตอรี่แล้ว อย่างละ 1 ขา หากท่านต้องการนั่งกระเช้าขาลงต้องชำระเพิ่มประมาณ 60 หยวน *** ในกรณีที่สภาพอากาศไม่ดี กระเช้าและรถแบตเตอรี่ไม่เปิดให้บริการ ทางบริษัทขอคืนเงินให้ท่านละ 60 หยวน ***
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 9)
บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองเม้าเสี้ยน (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชม.)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 10)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม (มื้อที่ 14)
นำท่านเปลี่ยนนั่งรถของอุทยานขึ้นภูเขา จากนั้นนำท่าน โดยสารกระเช้าไฟฟ้า ขึ้นสู่จุดชมวิวบนยอดเขาจินติ่งที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 3,077 เมตร ชมทิวทัศน์อันสลับซับซ้อนไปด้วยขุนเขาเหนือชั้นเมฆที่สวยงามดุจดั่งสวรรค์ นำท่านนมัสการ องค์ผู่เสียนทรงช้าง พระพักตร์ 10 ทิศ สูง 48 เมตร ลักษณะพิเศษขององค์พระปฏิมาจะเป็นพระโพธิสัว์ทรงคชสารเป็นช้างเผือก 6 งา ชมตำหนักทอง ตำหนักเงิน ตำหนักสำริด และตำหนักเหล็ก ซึ่งประหนึ่งว่าได้จำลอง 4 พุทธคีรี ท่านจะได้เห็นวิวทิวทัศน์อันสลับซับซ้อนไปด้วยขุนเขาเหนือชั้นเมฆที่สวยงามดุจดั่งสวรรค์
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 15)
นำท่านสู่ วัดเป้ากั๋ว เป็นวัดที่ใหญ่และสวยงามที่สุดของง๊อไบ๊ เดิมชื่อว่าฮุ่ยจงถัง สร้างขึ้นในสมัราชวงศ์หมิง เพื่อบูชาพระโพธิสัตว์ผู่เสียนโพธิสัตว์แห่งปัญญาผู้สถิตย์ ณ เขาง๊อไบ๊ ซึ่งเป็นความเชื่อของ 3 ศาสนาคือ พุทธ เต๋า และลัทธิขงจื๊อ ตั้งอยู่บริเวณด้านล่างของที่ราบภูเขาฟ่งหวง สูงจากระดับน้ำทะเล 533 เมตร ต่อมารัชสมัยคังซีฮ่องเต้แห่งราชวงศ์ชิงได้ ได้เปลี่ยนชื่อจากวัดฮุ่ยจงถังมาเป็นวัดเป้ากั๋วมาจนปัจจุบัน ภายในมีโบราณสถานสำคัญคือ ซานเหมิน (ประตูเขา) ตำหนักหมีเล่อ วิหารหลัก และหอพระคัมภีร์ ต่อมาในปี 1983 ถูกจัดเป็นอีกหนึ่งในจำนวนวัดที่สำคัญที่สุดในจีน ได้รับการบูรณะใหม่โดยพระชาวไต้หวันแห่งเมืองเกาสง ซึ่งได้บริจาคเงินถึง 100,000 ดอลล่าร์ ซึ่งเป็นวัดและพิพิธภัณฑ์เก็บของเก่าที่มีค่าทั้งรูปภาพ องค์พระ และในพิพิธภัณฑ์มีงวงช้าง ของสำริดคล้ายหน้าคน เหมือนเทพเจ้าซึ่งใส่หน้ากากทำจากทองสำริดใหญ่ที่สุด มีความยาวถึง 1.38 เมตร
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 16)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม (มื้อที่ 11)
นำท่านเดินทางสู่ เมืองเล่อซาน (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง ) จากนั้นนำท่านเที่ยวชม เมืองโบราณหวงหลงซี ให้ท่านได้สัมผัสบรรยากาศเก่า ๆ ของหมู่บ้านสมัยราชวงศ์หมิง ตั้งอยู่ริมแม่น้ำหวงหลงซี ในอดีตเคยเป็นเมืองท่าการค้าขายที่คึกคัก ปัจจุบันเมืองนี้เป็นเมืองที่มี ทัศนียภาพอันสวยงามของเมืองหวงหลงซีได้รับการตีพิมพ์ในนิตยสารฉบับหนึ่ง เมื่อ 10 กว่าปีก่อน ก็กลายเป็นจุดสนใจของนักท่องเที่ยว และเป็นที่ถ่ายทำภาพยนตร์ย้อนยุคอีกหลายเรื่อง ให้ท่านได้สัมผัสบรรยากาศ โรงน้ำชา วัดเก่าแก่ ต้นไม้โบราณ และวิถีชีวิตของชาวบ้านที่มักไปจับกลุ่มเล่น ไพ่นกกระจอก และดื่มน้ำชาใต้ร่มไม้ นำท่านเดินทางสู่ เมืองเล่อซาน (ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง) ระหว่างทางท่านจะได้ชื่นชมกับธรรมชาติสองข้างทางที่อุดมไปด้วยแมกไม้นานาพันธุ์และชีวิตความเป็นอยู่ของชาวมณฑลเสฉวน ซึ่งยังคงรักษาวัฒนธรรมแบบเดิมของชาวจีนและธรรมชาติ
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 12)
นำท่าน ลงเรือเพื่อชมเกาะเล่อซาน ซึ่งมีรูปพรรณดั่งพระกลางทะเล สักการะ หลวงพ่อโตเล่อซาน ซึ่งใช้เวลาสร้างนานถึง 90 ปี โดยหลวงพ่อไท่หง ใช้เงินบริจาคของชาวบ้าน เพื่อเป็นสิริมงคลและปกป้องภัยน้ำท่วมจากแม่น้ำหมิงเจียง มีความยาวกว่า 600 กิโลเมตรพระพักตร์ของหลวงพ่อโตหันออกไปสู่แม่น้ำ หมิงเจียงเป็นพระพุทธรูปนั่งที่สกัดเข้าไปในภูเขาที่ใหญ่ที่สุดในโลก สูงถึง 71 เมตร
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เขาง้อไบ้ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) เอ๋อเหมยแปลว่าคิ้วโก่ง เพราะทิวเขามีลักษณะเหมือนคิ้ว นักพรตในลัทธิเต๋าเริ่มเข้ามาสร้างศาลเจ้าในเทือกเขาแห่งนี้ในศตวรรษที่ 2 หลังจากนั้นศาสนาก็เริ่มเฟื่องฟูมาจนถึงศตวรรษที่ 6 เอ๋อเหมยซานจึงกลายมาเป็น 1 ใน 4 ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ทางพุทธศาสนา (เอ๋อเหมยซาน, อู่ไถซาน, จิ่วหัวซาน, ผู่โถซาน)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 13)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม (มื้อที่ 17)
นำท่านเดินทางสู่ เมืองเฉิงตู เมืองหลวงของมณฑลเสฉวน (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง)
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 18)
บ่าย จากนั้นนำท่านเที่ยวชม ถนนไท่กู๋หลี ช้อปปิ้งคอมเพล็กซ์ ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้าใต้ดิน โรงภาพยนตร์ จัตุรัส และโรงแรมหรูอย่าง The Temple House ใครชอบสไตล์จีนโมเดิร์น จากนั้นนำท่านสักการะ วัดต้อฉือ ซึ่งอยู่บริเวณติดกันกับถนนไท่กู๋หลี ซึ่งวัดเก่าแก่แห่งนี้แต่เดิมพระถังซำจั๋งเคยจำพรรษาก่อนเดินทางไปชมพูทวีป
นำท่านชมจุดเช็คอินที่ หมีแพนด้ายักษ์ปีนตึก (IFS BUILDING) เป็นแพนด้าที่อ้วนน่ารักกำลังป่ายปีนตืน เป็นประติมากรรมแพนด้ายักษ์แขวนอยู่บนอาคาร IFS ในใจกลางเมืองเฉิงตู
จากนั้นนำท่านชม จากนั้นท่านช้อปปิ้งต่อที่ย่าน ถนนคนเดินชุนซีลู่ ซึ่งเป็นย่านวัยรุ่น และขายสินค้าที่ทันสมัย ทั้งสินค้าแบรนด์เนมและช้อปเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า รวมถึงร้านขายของกินมากมาย เป็นถนนที่ปิดไม่ให้รถสามารถวิ่งผ่านได้
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 19) *อาหารพิเศษสุกี้หม่าล่าเสฉวน*
จากนั้นนำท่านชม โชว์เปลี่ยนหน้ากาก เอกลักษณ์และไฮไลน์ของเมืองเฉิงตู มีคำกล่าวว่า “ถ้ามาเฉิงตู แล้วไม่ได้ดูโชว์เปลี่ยนหน้ากาก ถือว่ายังมาไม่ถึงเฉิงตู” เป็นศิลปะการแสดงงิ้วของเสฉวน เป็นการโชว์ที่ผู้แสดงสะบัดหน้าเพียงครั้งเดียวก็สามารถเปลี่ยนหน้าได้เพียงเสี้ยววินาที เป็นศิลปะของคนจีนตั้งแต่สมัยโบราณ ในอดีตเทคนิคการแสดงจะถูกปิดเป็นความลับและจะถ่ายทอดเฉพาะคนในตระกูลเท่านั้น
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม (มื้อที่ 20)
จากนั้นนำท่านเที่ยวชม ถนนโบราณจินหลี่ เป็นถนนที่มีบ้านเมืองแบบจีนโบราณ ทำให้เห็นถึงบรรยากาศเหมือนเดินในหมู่บ้านหนังจีนสมัยก่อนถนนยาวประมาณ 550 เมตร มีร้านค้ามากมายที่ตกแต่งอยู่ในบ้านหลังเก่าของจีน มีสินค้าพื้นเมืองและขนมต่าง ๆ และของฝากมากมาย
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 21)
สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่ สนามบินเฉิงตูเทียนฟู่ เฉินตู
15.55 เดินทางกลับกรุงเทพฯ สายการบิน Thai Airways เที่ยวบินที่ TG619
18.00 เดินทางกลับถึงสนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจในการเดินทาง
55 หมู่ 6 ดอนเปา แม่วาง เชียงใหม่ 50360